โครงการ การสื่อความหมายชาเมี่ยงสู่นานาชาติเพื่อสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ผู้เข้าเยี่ยมชมแปลงสาธิตชาเมี่ยงภายใต้ผืนป่า รุ่นที่ 1
นำทีมโดย ผศ.ดร.ธนากร ลัทธิ์ถิระสุวรรณ
อ.อลิษา อินจันทร์และนักศึกษาปริญญาโท
สาขาวิชา การจัดการป่าไม้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ,
ดร.ธนภักษ์ อินยอดพร้อมด้วยทีมงานจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.),
นายคมสันต์ วิสิทธิศาสตร์ ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน,
นายรัตน์กวี บุญเมฒ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกอบรมวนศาสตร์ชุมชนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (RECOFTC) ประจำโครงการจังหวัดน่าน,
และตัวแทนสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาและส่งเสริม
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ นำทีมโดย อดีตกำนันเปล่ง มโนวรณ์
ขั้นตอนการปลูกและการดูแลในสวนชาเมี่ยง
1. การเลือกพื้นที่ ควรเลือกพื้นที่ที่มีร่มเงาของต้นไม้ หรือทำไม้บังร่ม เพราะชาเมี่ยงจะเจริญเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาของต้นไม้อื่นที่แสงแดดส่องไม่ถึงโดยตรง หากต้นชาเมี่ยงได้รับแสงแดดจัดโดยที่ไม่มีร่มเงา จะทำให้ใบมีขนาดเล็กเหลือง ใบไหม้ทำให้ต้นโทรมและตายได้
2. เตรียมพื้นที่ โดยการการกำจัดวัชพืชและเถาวัลย์ต่างๆ ในแปลงที่ต้องการปลูกชาเมี่ยงเพื่อให้กล้าชาเมี่ยงสามารถเจริญเติบโตได้ดี
3. เตรียมหลุม เพื่อปลูกกล้าชาเมี่ยง ขุดหลุมให้ขนาดใหญ่กว่าถุงเพาะกล้าเมี่ยงเล็กน้อย โดยใช้ระยะห่างแต่ละหลุมขนาด 2 x 2 เมตร รองก้นหลุมด้วยดินคลุกปุ๋ยคอกขี้วัวหรือปุ๋ยหมัก
4. เตรียมกล้าชาเมี่ยง ที่ต้องการปลูกให้ครบจำนวนหลุมที่ขุดไว้ ทำการปลูกกล้าชาเมี่ยงลงไปในหลุมที่เตรียมไว้ การปลูกควรทำในช่วงที่มีฝนตก เมื่อปลูกแล้วนำเศษใบไม้มาคลุมบริเวณโคนต้นของกล้าเมี่ยงเพื่อรักษาความชื้นแล้วปักหลักด้วยไม้ไผ่เพื่อผยุงลำต้นไม่ให้ล้มและเพื่อเป็นจุดสังเกตุเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษาและการเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตครั้งต่อไป
5. การดูแลกล้าชาเมี่ยง โดยการกำจัดวัชพืชที่เป็นอันตรายและขัดขวางต่อการเจริญเติบโตของต้นชาเมี่ยง และมีการพรวนดินในระดับตื้นๆ ในการดูแลชาเมี่ยงไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเลยชาเมี่ยงก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี หากดินแห้งมากเกินไปหรือไม่มีฝนตกควรให้น้ำต้นชาเมี่ยงในช่วง การกำจัดวัชพืชและการให้ความชื้นควรทำอย่างสม่ำเสมอในช่วง 1 - 2 ปีแรกเพื่อให้กล้าชาเมี่ยงสามารถตั้งตัวและเจริญเติบโตต่อไปได้